วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ถาม “นิติราด”.....ถาม.. “นิติราษฎร์”

13 คำถาม “นิติราด”.....ถาม.. “นิติราษฎร์”

กรณีวิวาทะผ่านเวทีสังคมออนไลน์และการประกาศตัวของ กลุ่มหรือคณะหรือหมู่ทะลวงฟัน หรืออะไรก็แล้วแต่ในนาม นิติราษฎร์ รวมทั้ง การปรากฏของ 23 คณาจารย์ที่ออกมาตอบโต้และตั้ง 15 คำถามให้นิติราษฎร์หาคำตอบ หลังจากนั้นเห็นบอกว่าขอเวลา 2 อาทิตย์ในการตอบคำถามนี้

ไหนๆก็ไหนๆแล้วการเปิดหน้าของนิติราษฎร์ เสนอแบบจุดพลุในสังคมประเทศไทย บนข้ออ้างของความชั่วร้ายของรัฐประหารเมื่อครั้ง 19 ก.ย.49 ตามเหตุผลผู้ที่อ้างตัวในการเป็นอาจารย์พรั่งพรูออกมากับข้อเสนอนั้น สรุปรวบยอดเอาเองครับว่าหากเป็นไปตามข้อเสนอนั้น เสนอเพื่ออะไรจุดรวบยอดสูงสุดคือใคร แล้วใครนั่งอยู่บนยอดสุดของปิรามิด

ขอถามแบบคำถามแบบ “นิติราด”บ้านนอก...ถึง “นิติราษฎร์”เมืองกรุง....เพื่อความกระจ่างครับ

1. ระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย มีจริงหรือไม่ แล้วมันอยู่ที่ใด ?

2. การปฏิวัติครั้งที่ 1 เมื่อปี 2475 เป็นสิ่งที่ชัวร้ายหรือไม่ และถัดมาหลังจากนั้นการรัฐประหาร และการก่อกบฏ ทุกครั้งที่เกิดขึ้น จนเมื่อ 19 ก.ย.2549 เป็นสิ่งที่ชั่วร้ายทั้งหมดใช่หรือไม่…?

3. รัฐบาลทุกรัฐบาลนับแต่ 2475 เป็นมรดกของความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นจากการปฏิวัติ และการรัฐประหารใช่หรือไม่….?

4. การเลือกตั้งที่เกิดขึ้นบนธุรกิจการเมือง ใช้จ่ายเงินซื้อเสียง ครอบงำ หลอกลวง แจกผลประโยชน์ เมื่อชนะการเลือกตั้งแล้ว สามารถทำอย่างไรก็ได้ เพราะชนะการเลือกตั้ง และสามารถทำธุรกิจการเมืองกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเองและพวกพ้อง เป็นสิ่งที่ชอบธรรม เพราะเป็นเสียงส่วนใหญ่ที่เลือกเข้ามาใช่หรือไม่....?

5. เมื่อระบบการเมืองครอบงำระบบการตรวจสอบจนง่อยเปลี้ย เสียขา ทำลายระบบถ่วงดุลอำนาจ คือฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ และทำลายองค์กรอิสระจนล้มเหลวเช่นข้อความที่ว่า “กกต.เป็นของเรา” เป็นความถูกต้องชอบธรรมเพราะได้รับการเลือกตั้งมา ใช่หรือไม่....?

6. ระบบเผด็จการ ในสายตา “นิติราษฎร์” เป็นอย่างไร...?

7. หากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับนิติราษฎร์ แล้วเป็นผู้ปกครอง หรือผู้บริหาร หรือแสดงความเห็นในความเป็นจริงที่แตกต่าง มากกว่าความเพ้อฝัน เป็นเผด็จการและชื่นชอบในการรัฐประหารใช่หรือไม่….?

8. เหล่าตุลาการทั้งหลายที่ทำหน้าที่พิพากษาอรรถคดีความนั้นทำหน้าที่ภายใต้

สถาบันใด.....?

9. หากล้มคำพิพากษาคำตัดสินเหล่านั้นแล้วเท่ากับล้มสิ่งใดหรือ......?

10. เมื่อมีผู้กระทำผิดต่อชาติที่มีฐานะร่ำรวยมหาศาล มีอำนาจสามารถจัดระเบียบเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ไว้ได้โดยสามารถครองประโยชน์จากผลรวบยอดไว้ได้เบ็ดเสร็จ รัฐฐาธิปัตย์ จะต้องปรับกฎหมายให้เข้ากับผู้กระทำผิด เพราะผู้นั้นไปทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม แต่ไม่ได้ทำผิดกฎหมายเช่นนั้นใช่หรือไม่...?

11. และว่าหากบรรพบุรุษของอาจารย์ผู้เป็นเลิศในทางกฎหมาย เป็นสมุนของขุนโจร หรือเป็นลูกหลานมหาโจร อาจารย์ผู้นั้นย่อมเป็นนักกฎหมายที่ปกป้องโจร และไม่สามารถเป็นอาจารย์ที่ดีได้ใช่หรือไม่....?

12. ฝูงชนที่มีจำนวนมากได้มีมติร่วมกันในการจัดหาพาน้ำมันมาคนละขวดแล้วจุดไฟให้กรุงเทพกลายเป็นทะเลเพลิง ในขณะที่คนที่ไม่เห็นด้วยเป็นเจ้าของกรุงเทพ เป็นเจ้าของตึกรามเหล่านั้น และเป็นคนที่อยู่คนละฝ่ายกับฝูงชนนั้น ไม่เห็นด้วย จะต้องยอมให้เผา เพราะเป็นเสียงส่วนใหญ่ ส่วนมากในที่นั้น เป็นสิ่งที่ชอบ เพราะเป็นเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ใช่หรือไม่....?

13. ทั้ง 13 ข้อนี้ “นิติราด” เห็นว่า ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีกฎหมาย ไม่ต้องต้องมีระเบียบ ไม่ต้องมีจริยธรรม คุณธรรม หลักนิติธรรม หลักนิติรัฐ ด้วยไม่มีความจำเป็นเพราะยึดถือเสียงส่วนใหญ่ เพราะ “ไม่มีเสียงใด ดังกว่าเสียงของประชาชน” เป็นสิ่งที่ “นิติราษฎร์” เห็นด้วยใช่หรือไม่…?

ทั้ง 12 คำถามนี้ “นิติราด” เห็นว่า “นิติราษฎร์” ควรตอบเป็นอย่างยิ่ง และเห็นต่อไปว่าในโลกของความเป็นจริงในประเทศไทย “การเลือกตั้ง" ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย หาก “นิติราษฎร์” เห็นว่า “เลือกตั้งชนะครองอำนาจรัฐแล้วชั่วได้” “นิติราด” ขอเสนอว่า..... “นิติราษฎร์”..ควรชักชวน ผู้ที่เห็นสมและผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากข้อเสนอของ “นิติราษฎร์” ไปหาซื้อแผ่นดินตั้งประเทศอาศัยใหม่เถิด..เงินซื้อทุกอย่างได้ถ้ามีมากพอเป็นความจริง...แผ่นดินไทยนี้ มีรากแก้ว และมีที่มาอย่างยาวนาน ความมั่นคงที่เกิดขึ้น แผ่นดินที่คงอยู่นี้ ทับถมด้วยเลือดเนื้อและชีวิตของภูมิบรรพบุรุษมามากแล้ว

และบังเอิญว่า “นิติราด” รู้คุณแผ่นดินที่อาศัย รู้คุณทุนที่ได้ร่ำเรียนมา และรู้ถึงคุณค่าในความเป็นมนุษย์ว่าจะต้องดำรงอยู่ด้วย จริยธรรม คุณธรรม ความถูกต้อง ความเป็นจริง มากกว่าความเพ้อฝันที่ไม่เคยจับต้องได้ มนุษย์ มีแขนขาสมองเท่ากันทุกคน แต่สำนึกในความเป็นมนุษย์ และยอมรับความเป็นจริงโดยไม่มีสิ่งเคลือบแฝง มันแตกต่างกันโดยแท้./////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น