วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554

มันแตกต่างไปจากนโยบายของรัฐบาลชุดนี้อย่างสิ้นเชิง!

.

.

"กูไม่รู้หรอกนะว่าไอ้แท็บเล็ตแท็บหลุดที่ทางการจะแจกให้เด็กนักเรียนมันคืออะไร แต่ถ้ามันจะทำให้การศึกษาและความเป็นอยู่ของเด็กในชนบทดีขึ้น กูก็ว่าเราน่าจะสนับสนุนอยู่หรอกนะ" ลุงชุมเอ่ยขึ้นหลังจากที่แกกระดกเหล้าเพียวๆลงคอเหมือนแกกำลังจิบน้ำชาในเย็นวันที่ผมเอาเหล้าไปขอบคุณแกที่ช่วยซ่อมประตูหลังบ้านให้ และผมต้องนั่งร่วมวงเพื่อจะอธิบายความหมายของไอ้เจ้าแท็บเล็ตที่แกพูดถึง ดูเหมือนว่าแกจะเป็นคนที่เข้าใจอะไรง่ายๆมากกว่าที่ผมคิดไว้ และหลังจากที่เหล้าแบนที่สองถูกเปิดขึ้น เราสองคนก็ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่บางครั้งก็มีตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง ในขณะที่สายฝนเริ่มโปรยลงมาทำให้บรรยากาศของเย็นวันนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยอรรถรสสำหรับการร่ำสุราอย่างเยี่ยมยอด

ต้มยำพุงปลาช่อนร้อนๆรสจัดจ้านถูกปรุงโดยฝีมือลุงชุม ผู้เฒ่าสมถะแห่งสวนหลังบ้านตักใส่ชามพร้อมเสริฟตามด้วยปลาตัวเล็กๆทอด(ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเป็นปลาอะไรลักษณะคล้ายๆปลาซิว)มีน้ำจิ้มรสแซบใส่ถ้วยวางอยู่ข้างๆจานเป็นกลับแกล้มระดับ5ดาวในเย็นวันนั้น ผมถามแกขึ้นว่าแกลงทุนไปเท่าไหร่เดี๋ยวผมช่วยออกเงินให้เอง แกยกมือขึ้นปรามแล้วพูดว่า "ลงทุนลุงเทินอะไรของมึงวะ ของฟรีทั้งนั้น ปลากูก็จับมาจากท้องร่อง เครื่องต้มยำกูก็ไปหาเด็ดเอาในสวน ถ้าจะพูดกันถึงเรื่องลงทุนแล้วก็คงลงแต่แรงของกูเองนี่แหละ เพราะคงไม่มีใครมาจับปลาให้กูกินฟรีๆหรอกล่ะมั๊ง ไอ้เสือ! ว่าแต่มึงเหอะหมดเงินซื้อเหล้าไปกี่บาทแล้วล่ะ?" แล้วแกก็หันมายิ้มให้ผมเห็นฟันที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ซี่เหมือนกับจะเยาะเย้ยผมอย่างไรก็ไม่รู้ ทำเอาผมแอบอมยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

เราสองคนคุยกันอย่างถูกคอดุจสหายรุ่นเดียวกันที่เคยคบหากันมายาวนาน มีหลายครั้งที่ผมแกล้งถามแกไปว่า วันพระวันเจ้าแกไม่คิดจะหยุดกินเหล้าบ้างเหรอ? แกตอบผมมาว่า "กูก็กินของกูอยู่ประจำล่ะ แล้วแต่วันไหนมีกูก็กิน วันไหนไม่มีกูก็ไม่กิน กูกินในส่วนของกูไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน แต่ถ้ากูไปกินบ้านกินเมืองทำให้คนอื่นเดือดร้อนสิ พวกมึงถึงค่อยมาว่า คนไทยทุกวันนี้มันโง่จวนจะหมดไปเทศกันหมดแล้ว มองไม่ออกว่าอะไรดีอะไรชั่ว เห็นคนกินเหล้าก็เหมาเอาว่าเป็นคนชั่วเป็นคนไม่ดีไปหมด ส่วนคนที่ไม่ได้กินก็เสือกไปมองว่ามันดีไว้ก่อน มันจะดีจริงหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ กูไม่สนหรอกว่าใครจะคิดยังไงกับกู แค่กูไม่ทำตัวให้เป็นภาระของใครกูก็ถือว่ากูได้ช่วยชาติแล้ว"

จริงของลุง

แค่ไม่ทำตัวให้เป็นภาระของใครก็ถือได้ว่าช่วยชาติแล้ว

ผมเดินท่องไปตลอดทางจนถึงบ้าน

แล้วผมก็เข้าใจความหมายของคำว่าเศรษกิจพอเพียงของลุง

ซึ่งมันแตกต่างไปจากนโยบายของรัฐบาลชุดนี้อย่างสิ้นเชิง!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น