วันอังคารที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การตรวจสอบการเลือกตั้ง ส.ส.สระบุรีเขต ๓

สรุปผลการสังเกตการณ์การเลือกตั้ง
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.๒๕๕๔
เขตเลือกตั้งที่ ๓  จังหวัดสระบุรี
๑.     เมื่อองค์การเอกชนกลุ่มพลังหนุ่มฯ ได้รับอนุมัติโครงการเรียบร้อยแล้ว ได้ดำเนินการประชุมอาสาสมัครสังเกตการณ์การเลือกตั้งได้ชี้แจงถึงหน้าที่ตามระเบียบขององค์การเอกชนในการสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เน้นไปที่ ปอส.ให้สอดส่องหาข่าวการซื้อสิทธิ์ขายเสียงของผู้สมัคร และหัวคะแนนแล้วให้รายงานประจำวันในเวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. ของทุกวัน เป็นจำนวน ๑๐ วันจนถึงวันเลือกตั้ง
๒.    ในเขตเลือกตั้งที่ ๓ จังหวัดสระบุรี มีพื้นที่ ครอบคลุม อ.วิหารแดง อ.หนองแค อ.หนองแซง มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด ๑๗๘ หน่วยเลือกตั้ง ผู้สมัครที่แข่งขันก็มี ๓ พรรคการเมืองใหญ่ๆ คือพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย สังเกตได้ว่า ในแต่ละพรรคก็จะมีฐานเสียงอยู่ในเขตอำเภอของตน คือพรรคเพื่อไทย มีฐานเสียงอยู่อำเภอหนองแค พรรคประชาธิปัตย์มีฐานเสียงอยู่อำเภอหนองแซง พรรคภูมิใจไทยมีฐานเสียงอยู่ที่อำเภอวิหารแดง
๓.    การหาเสียงก่อนถึงวันเลือกตั้งเป็นไปตามปกติ คือมีรถวิ่งหาเสียงของผู้สมัครทั้งหมดวิ่งในเขตพื้นที่เป้าหมายของตน แต่มีความเคลื่อนไหว ของหัวคะแนนของแต่และคน กล่าวคือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายการเมืองท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็น นายก และสมาชิก อบต. ตลอดจนถึงหัวคะแนนมืออาชีพที่คุ้นหน้าคุ้นตาเริ่มมีการออกจดชื่อชาวบ้านเพื่อต้องการทราบยอดจำนวนที่ตนรับผิดชอบ และไปเสนอขอรับจำนวนเงินที่จะมาแจกเพื่อซื้อเสียง ในการนี้ทราบว่ามีการจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ร้อยละ ยี่สิบ ให้แก่หัวคะแนน เป็นต้นว่า รับเงินมา ๑๐๐,๐๐๐ บาท แจกหัวละ ๒๐๐ บาท ครบห้าร้อยเสียง แล้วหัวคะแนนไปรับเปอร์เซ็นต์จากผู้จ้าง ๒๐,๐๐๐ บาทต่างหาก ไม่เกี่ยวกับเงินที่รับมาทีแรก  และก็ได้ข่าวว่า มีผู้สมัครรายหนึ่ง จะจ่ายเงินต้นเพื่อแจกเพียง ๗๐ เปอร์เซ็นต์ก่อน อีก ๓๐ เปอร์เซ็นต์ จะจ่ายเมื่อทราบผลคะแนนแล้ว ทางหัวคะแนนไม่ยอมจึงไปรวมตัวประท้วงกันที่ทำการ อบต.แห่งหนึ่ง เพื่อเรียกร้องให้ผู้สมัครจ่ายมาเต็ม ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่เช่นนั้นจะไปเป็นหัวคะแนนให้อีกฝ่ายหนึ่ง เรื่องนี้เกิดขึ้นในเขต อบต.ของผู้มีอำนาจทำการแทนเอง และได้พยายามหาข่าวจากชาวบ้านหลายๆคนซึ่งก็เป็นการบอกเล่าที่ตรงกัน ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง จึงสรุปได้ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีการเลือกตั้งว่า มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันจริง
๔.    ทางด้านอำเภออื่นในเขต ๓  ก็ได้รับแจ้งจาก ปอส. ในทำนองเดียวกัน คือ ผู้นำชุมชนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครองหรือฝ่ายท้องถิ่น ต่างก็เสนอตัวเป็นหัวคะแนนของผู้สมัครทั้งนั้นและก็มีการแจกเงินให้กับชาวบ้านผ่านทางหัวคะแนนเหล่านั้น ตั้งแต่ก่อนถึงวันเลือกตั้ง กระแสของคะแนนเสียงในก่อนวันเลือกตั้งไม่สามารถคาดหมายได้เลย เพราะผู้สมัครทุกคน ต่างฝ่ายต่างก็ทุ่มซื้อเสียงกันอย่างเต็มที่ มีข้อสังเกตว่า มีผู้สมัครรายหนึ่ง ว่าจ้างไปรษณีย์ แจกแผ่นซีดี และบัตรแนะนำตัว โดยมิได้จ่าหน้าซองถึงผู้รับ คือหมายความว่า เมื่อไปรษณีย์เจอใครก็ตาม ก็เอาแผ่นซีดีและบัตรแนะนำตัวให้กับ ชาวบ้านเลย ผู้สมัครรายนี้ขึ้นป้ายแนะนำตัวตามชุมชนและข้างถนนมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยได้ลงพื้นที่เพื่อให้ชาวบ้านรู้จักตัวจริงเลยว่าเป็นใครมาจากไหน แต่เมื่อผลคะแนนออกมาปรากฏว่าแพ้คะแนนอันดับหนึ่งอยู่เพียงพันกว่าคะแนนเท่านั้น จึงตั้งข้อสังเกตไว้
๕.   วันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ วันเลือกตั้ง หลังจากเปิดศูนย์ประสานงานแล้ว ผู้มีอำนาจทำการแทนได้ออกตรวจเยี่ยม ปอส.และอสส.ในเขต ๓ โดยสุ่มไปตรวจอำเภอละ ๕-๖ หน่วยเลือกตั้ง ก็พบว่าหน่วยเลือกตั้งที่ไปตรวจนั้น มีประชาชนมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนตามปกติ บางหน่วยก็หนาแน่น บางหน่วยก็บางตา ได้พบเห็น ลูกเสืออาสา กกต. มาช่วยดูแลความเรียบร้อยและแนะนำแก่ผู้มาใช้สิทธิ์ตามหน่วยต่างๆ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ลูกเสือ กกต. ไม่ครบทุกหน่วยเลือกตั้ง จนกระทั่งถึงเวลาปิดหีบลงคะแนน ในการนี้มีการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้ง ได้สังเกตเห็นมี หัวคะแนนมาสังเกตการณ์และจดนับจำนวนคะแนนที่ได้ว่าจะเข้าเป้าตามจำนวนที่รับผิดชอบหรือไม่ พบเห็นอย่างนี้ทุกหน่วยที่ไปตรวจเยี่ยมในเวลานับคะแนน
๖.     ผลการนับคะแนนพอจะทราบได้อย่างไม่เป็นทางการในเวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น. ซึ่งหลังจากวันเลือกตั้งผ่านไปไม่นานก็มีการร้องเรียนกันขึ้น และมีการแขวนผู้ได้คะแนนมากที่สุด คือทางคณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่ประกาศรับรอง จนกระทั่งถึงช่วงปลายเดือนกรกฎาคม จึงมีการประกาศรับรองให้ได้เป็น ส.ส. ตามที่ได้อ้างว่าเพื่อให้เปิดประชุมสภาได้ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้
๗.    ภาพรวมโดยสรุปสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. ๒๕๕๔ การหาเสียงยังเป็นแบบเดิมๆไม่มีอะไรที่สร้างสรรค์หรือเกิดสิ่งใหม่ๆขึ้นในทางที่ดี แต่กลับเป็นเหมือนว่ายิ่งตกลงไปในวังวนลึกไปกว่าเดิม ระบบฐานเสียงหัวคะแนนก็ยังเป็นของผู้นำท้องถิ่น ทั้งฝ่ายปกครอง และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการรับเป็นหัวคะแนนแจกเงินซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันเต็มรูปแบบ พรรคการเมืองใหญ่ที่ลงสมัครมีการใช้เงินหว่านซื้อเสียงอย่างเต็มรูปแบบทุกพรรค ประชาชนชาวบ้านเองก็ไม่ได้มีจิตสำนึกในการที่จะใช้วิจารณญาณของตนเองในการเลือกตัวแทนที่จะเข้าไปทำหน้าที่อย่างถูกต้อง ตัวผู้สมัครเองพรรคการเมืองที่ตนเองสังกัด ตลอดจนหัวคะแนนต่างก็กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างน่าละอายที่สุด ทั้งผู้สมัครและผู้ใช้สิทธิ์ต่างสมยอมในประโยชน์ที่ได้หยิบยื่นให้แก่กัน อย่างหน้าชื่นตาบาน จุดเริ่มต้นของประชาธิปไตยแบบไทยๆเช่นนี้ อำนาจทางการเมืองก็ตกอยู่ในกลุ่มคนตระกูลเดิมๆ ที่เรียกว่าเป็นนักเลือกตั้งมืออาชีพ เพียงแต่ว่าอาจเปลี่ยนข้างมาอยู่กับอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้นไม่ได้มีอะไรที่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม
๘.    ในส่วนของการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องประชาธิปไตยและส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนนั้น องค์การเอกชนเห็นว่า ควรจะต้องจัดให้มีมากขึ้นและให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อปลูกจิตสำนึกของประชาชนทุกระดับชั้นได้ตระหนักถึงสิทธิและหน้าที่ในความเป็นพลเมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยว่าควรจะทำอย่างไรบ้างจึงจะทำให้ ประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าอย่างถูกต้อง ชอบธรรม และเป็น “ประชาธิปไตยสมบรูณ์”
  


ผู้มีอำนาจทำการแทนองค์การเอกชน
กลุ่มพลังหนุ่มสุวรรณศร-สระบุรี เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น