วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เส้นใต้บรรทัด (จิตกร บุษบา)

เส้นใต้บรรทัด (จิตกร บุษบา)

ใครปิด"คลายปม"? (เส้นใต้บรรทัด)





ข่าวลือเรื่องปิดรายการ "คลายปม" มีขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา

ผู้คนทั้งในโลกออนไลน์และในชีวิตจริงพูดถึงเรื่องนี้ กันกระหึ่ม ทำให้เฝ้ารอดูกันว่า เวลา 21.00-22.00 น. ของ คืนวันอาทิตย์ จะมีรายการ "คลายปม" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เหมือนเดิมหรือไม่ ในที่สุดก็เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าไม่มี

น่าคิดว่า ทำไมรายการวิเคราะห์ข่าว ความยาวเพียง 1 ชั่วโมง จึงกลายเป็นปัญหา ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นเป้าทาง การเมืองอยู่บ่อยๆ ทั้งๆ ที่มีเรตติ้งสูงเป็นลำดับต้นๆ ของช่อง และจ่ายเงินค่าเช่าเวลาก่อนรายการจะออกอากาศเสียด้วยเรามาคลายปมกัน

1."คลายปม" คืออะไร?

คลายปมคือรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ออกอากาศสัปดาห์ละครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง ทางช่อง 11 โดยมีผู้วิเคราะห์ หลัก คือ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กับผู้วิเคราะห์ร่วม ประกอบด้วย ดร.เสรี วงษ์มณฑา ทนายวันชัย สอนศิริ และผม ที่สับเปลี่ยนกันมาร่วมวิเคราะห์ประเด็นที่ถูกผูกเป็น "ปม" ขึ้นในแต่ละสัปดาห์ เพื่อคลายความสงสัย ความไม่รู้ ให้แก่ผู้ชมรายการ พูดง่ายๆ ว่า ในรอบสัปดาห์ บ้านเมืองมีปมปัญหาอะไรที่คนไทยควรรู้ รายการนี้ก็จะคลายให้ ทั้งปัญหาการเมือง ปัญหาการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ปัญหากฎหมายปัญหาการศึกษา ปัญหาสังคม ปัญหาคุณภาพชีวิต ฯลฯ

2.คลายปมเป็นปัญหาสำหรับใคร?

ข้อนี้ตอบยาก ดังที่บอกแล้วว่า เนื้อหาของคลายปมนั้น ครอบคลุมหลายด้าน โดยทุกด้านมุ่งให้ "ความจริง" แก่ประชาชน ด้วยเนื้อข่าว ด้วยภาพเหตุการณ์ ด้วยรายงานพิเศษ และด้วย แง่มุมการวิเคราะห์วิจารณ์ของผู้ดำเนินรายการตลอดจน จาก คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์บ้างในบางเวลา เพื่อให้เกิด "ปัญญาสาธารณะ" ฉะนั้น "คนที่กลัวความจริง" กระมังครับ ที่รู้สึกว่ารายการนี้เป็นภัยเป็นพิษ เพราะมันสะกิด "ปัญญา" ของคนให้ทำงาน ให้รู้ทัน ให้ตรวจสอบ ซึ่งคนที่ออกอาการมากหน่อย เห็นจะเป็นนักการเมือง และแกนนำการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เพราะเราชี้พฤติกรรม ชี้ข้อกฎหมาย และย้ำเตือนให้กระบวนการ ยุติธรรมทำงานให้เกิดผล

3.มุ่งเล่นงานทักษิณ ชินวัตร และ นปช. หรือ?

ต้องตอบว่า ไม่มีใครเล่นงานใครได้ ตราบเท่าที่บ้านเมืองมีกฎหมายคุ้มครอง เมื่อใดที่คุณทักษิณก็ดี แกนนำ นปช. ก็ดี คิดว่าตนเองถูกละเมิดด้วยความเท็จ ก็ต้องพึ่งพากฎหมาย ที่ให้ความคุ้มครองไว้ มิใช่ใช้กฎหมู่หรือใช้อำนาจทางการเมือง เข้าข่มขู่ กดดัน นี่คือหลักการ

จริงอยู่ คุณทักษิณถูกพูดถึงมาก เพราะคุณทักษิณ มีพฤติการณ์ที่ไม่เคารพกฎหมาย มีเรื่องทุจริตคดโกงต่อประเทศชาติ ที่ศาลตัดสิน หรือองค์กรอิสระตรวจสอบไว้อย่างชัดเจน มีเพียง ตัวเขาเท่านั้นมั้งครับ ที่ยังไม่ทราบว่าเขาคดโกงบ้านเมืองเรื่อง อะไรบ้าง เพราะเขาหนีไปอยู่ต่างประเทศ ไม่ยอมเข้าคุกตาม คำพิพากษาของศาล ไม่มาสู้คดีที่ค้างอยู่ในศาลอีกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับข่าวในแต่ละสัปดาห์ ในหลายปีที่ผ่านมา ก็วนเวียน อยู่กับคุณทักษิณและพวกด้วย เขาจึงมีคุณูปการกับรายการมาก ตรงที่หยิบกฎหมายกี่ฉบับ หยิบคดีกี่คดี คุณทักษิณก็มีเรื่องพัวพันให้อธิบายได้อย่างลึกซึ้ง เช่นเดียวกับเหล่าคนเสื้อแดง ที่มาชุมนุมอย่างไม่สร้างสรรค์และถูกปลุกปั่นจนกลายเป็นม็อบ ผิดกฎหมาย เผาบ้านทำลายเมือง ก่อผลเสียหายในวงกว้าง นั่นไม่ใช่ปมที่ เราต้องคลายหรอกหรือ บ้านเมืองไม่ต้องการรายการโทรทัศน์ ที่จับจ้องปัญหา ชี้ปัญหา และตอบปัญหาให้ เป็นการเตือนภัยสาธารณะเสียก่อนหรอกหรือ

4.ตอนนี้ฝ่ายทักษิณกลับมามีอำนาจแล้ว จะถูกปิด รายการหรือไม่

ก็มีคนพูดกันเยอะ แต่เราเชื่อมั่นว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ดี รัฐมนตรี สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ก็ดี ต่างก็พูดจาฉะฉานว่าจะส่งเสริมเสรีภาพของสื่อ โดยเฉพาะท่านรัฐมนตรีท่านพูดชัด ว่าจะไม่มีการปิดรายการใดๆ ทั้งสิ้น เราก็ควรนับถือเชื่อถือ ในตัวท่าน เพราะโดยหลักแล้ว "คน" ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่พูด คงไม่พูดอย่าง แต่แอบทำอีกอย่างหรอกกระมัง ใครเป็นเช่นนั้น สังคมก็ให้นิยามไว้ตั้งแต่โบราณนานปีแล้วว่า เป็นพวกตระบัดสัตย์ หน้าเนื้อใจเสือ ปากว่าตาขยิบ ลิ้นสองแฉก ปลิ้นปล้อน ทุศีล เลว กระทั่งถึงคำหยาบๆ อย่างคำว่า "ตอแหล" โน่นเทียว

5.แล้วทำไม วันอาทิตย์ที่ผ่านมาจึงไม่มีรายการ?

ท่านผู้อำนวยการช่อง 11 นางสาวรัตนา ศักดิ์เจริญ ท่านกรุณาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับ วันอังคารที่ผ่านมาว่า "ขณะนี้ยังไม่มีการยกเลิกสัญญากับผู้ผลิตรายการคลายปม และเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก หลังจากทั้งสอง รายการไม่ได้ออกอากาศในคืนวันอาทิตย์และวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากช่อง 11 จำเป็นต้องใช้เวลาดังกล่าวออกอากาศรายการพิเศษของสถานี ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่ทำไว้กับผู้เช่าทุกราย ในวันจันทร์ที่ 22 ส.ค. สถานีต้องใช้เวลาออกอากาศเทปประกวดธิดาส้มโอ จ.ชัยนาท ในช่วงเวลาของรายการเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก เนื่องจาก จังหวัดชัยนาท ได้ทำสัญญาขอเช่าเวลาล่วงหน้า ในวันอังคารที่ 23 แต่ในวันดังกล่าว ช่อง 11 มีภาระถ่ายทอดสดการแถลงนโยบาย ของรัฐบาล ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 24 ส.ค. จึงจำเป็นต้องนำเทปประกวดธิดาส้มโอมาออกอากาศในวันจันทร์แทน"

เราก็ควรเชื่อท่าน หรือหาก สว.สมชาย แสวงการ และกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครอง ผู้บริโภค จะกรุณาตรวจสอบเพื่อ "คลายปม" ให้คนในสังคม ท่านก็ควรขอสัญญาไปดู หรือว่าถ้ามีอำนาจ ก็น่าลองเชิญ ผู้เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาไปให้ข้อเท็จจริง ดูว่าสภาสตรีฯที่มีรายการมาแทรกรายการคลายปม กับจังหวัดชัยนาท ที่มีรายการ มาแทรกอีกรายการหนึ่ง ทำสัญญาจองกันล่วงหน้าจริงไหมเพราะรายการของสภาสตรีฯ มีตั้งแต่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ทำไมทอดเวลารอการออกอากาศนานเหลือเกิน ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของ การเทิดพระเกียรติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ส่วนธิดาส้มโอชัยนาท ก็ออกอากาศสดที่ช่อง 5 ไปบ้างแล้ว งบประมาณเหลือมาก จนอยากออกช่อง 11 อีกรอบ หรืองานเทศกาลส้มโอชัยนาท เริ่ม 15-24 สิงหาคม หากต้องการประชาสัมพันธ์งาน เขาควรจะเร่งรีบออกอากาศก่อนหน้านั้น เพื่อหวังผลให้คนไปเที่ยว แทนที่จะมาออกคืนวันที่ 22 ซึ่ง เหลืองานอีกแค่ 2 วัน ที่เป็นวันอังคารกับพุธด้วยนะ ไม่ใช่วันหยุด อย่างเลว มันก็ควรออกอากาศคืนวันศุกร์ ถูกไหมครับ

พอออกมาในสภาพนี้ มันก็ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ อย่างนี้ก็น่าตรวจสอบ ว่าสัญญามีจริงไหม จ่ายเงินกันอย่างไร เมื่อไหร่ โดยใคร ทำสัญญาตั้งแต่วันไหน หรือเป็นเรื่องโมเม

6.การแทรกรายการพิเศษ เป็นลูกเล่นทางการเมือง หรือเปล่า?

ตอบไม่ได้ คงต้องรอให้มีการตรวจสอบ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะมี และ โดยส่วนตัว คิดว่าคงไม่ใช่ลูกเล่นอะไร ยกเว้นว่าจะเกิด "รายการพิเศษ" ในช่วงเวลาของรายการ "คลายปม" กับ "เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก" ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่าจะหมดสัญญาที่ทำไว้กับช่อง 11 ในเดือนกันยายน อย่างนั้นละก็ ถือว่า "จงใจ" อย่างน่าเกลียด ครั้งสองครั้ง คงไม่เป็นอะไรมั้งครับ ถือว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้

แต่ผมอยากตั้งข้อสังเกตแกมขอร้องนิดเดียวว่า ถ้าจะมี ลูกเล่นกันจริงๆ ก็กรุณาอย่านำรายการที่เทิดทูนสถาบัน พระมหากษัตริย์มาออกแทนอย่างกะทันหันเลย อย่าดึงสถาบัน ที่คนไทยรักและเทิดทูนลงมาบดบัง "ความไม่สุจริตใจ" ของตนเอง หมายจะยุติการถูกวิพากษ์วิจารณ์เลย ผมคิดว่ายิ่งทำอย่างนั้น ปวงชนชาวไทยยิ่งถือสา เพราะเป็นการกระทำที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง

ปกติรายการเทิดพระเกียรติ หรือรายการที่เกี่ยวกับสถาบัน จะมีกำหนดแน่ชัด และรวดเร็ว ไม่รอเวลา แต่ครั้งนี้ คนสงสัย ว่า รายการที่นำมาออกอากาศ เป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งเนื่องใน วันสตรีสากลของสภาสตรีฯ ซึ่งวันสตรีสากล มีตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทำไมประวิงเวลาตั้ง 20 วัน แทนที่จะขมีขมันเผยแพร่พระเกียรติคุณในพระองค์ เพื่อให้ปวงชนชาวไทยได้ชื่นชม พระบารมีกันอย่างถ้วนหน้าและทันท่วงทีไม่ต้องรีรอ ซึ่งถ้าแจ้งกันล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ เราเองก็จะได้ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยความปลาบปลื้มด้วย เพราะเป็นรายการพิเศษที่ดีมากๆ ที่คนไทย ควรได้ชม จึงมีบ้างบางคน ที่มีคำถามถึงความสุจริตใจของ คนที่เกี่ยวข้องว่า ทำไมเพิ่งนำมาออกอากาศ ทำไมต้องเป็น คืนวันอาทิตย์ ทำไมต้องเป็นเวลาสามทุ่มถึงสี่ทุ่มเป๊ะ เพราะเขาเหล่านั้น ไม่อยากให้ใครแอบอ้างดึงสถาบันลงมาเพื่อประโยชน์ของตัว คนไทยเทิดทูนสถาบันเกินกว่าจะยอม ไม่ให้พระองค์ท่านต้องทรงระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท

7."คลายปม" เป็นรายการไม่ส่งเสริมความปรองดองหรือ?

ก็ต้องมาทำความเข้าใจกัน ว่า "ปรองดอง" นั้น หมายความ ว่าอย่างไร ผมคิดว่าปรองดองไม่ได้แปลว่า "ทำเป็นลืมๆ กันไป มีความจริงอะไรที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายก็อย่าไปพูด ให้คน ที่เกี่ยวข้องเขาต้องแสลงใจ หรือสังคมส่วนใหญ่ได้รับรู้เลย" อุปมาเหมือนมีโจรขึ้นปล้นบ้านเรา เราเห็นหน้า เรามีภาพ เรามี หลักฐาน มีพยาน จะมาบอกว่า อย่าทะเลาะกันเลย มันวุ่นวาย น่าเบื่อ ปรองดองกันเถอะ ลืมๆ กันไป แล้วบ้านเมืองที่ฉิบหาย เสียหาย ก็ไม่มีใครต้องรับผิดชอบ ต้องชดใช้กระนั้นหรือครับ ขื่อแปทางกฎหมายมิกลายเป็นกระดาษเปื้อนหมึกไปหรอกหรือ อย่าเบื่อหน่ายกระบวนการตรวจสอบเอาผิดคนผิดคนชั่วเลยครับ หากอยากให้ผู้คนในบ้านเมือง โดยเฉพาะผู้มีอำนาจซื่อสัตย์ เคารพกฎหมาย และตั้งอกตั้งใจทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ก็ต้อง ช่วยกันส่งเสริมสื่อที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและโพนทะนา เช่นเดียวกับองค์กรอิสระต่างๆ เราก็ต้องสนับสนุน ให้กำลังใจเขาทำงาน มีกำลังแรงใจที่จะต้านทานอำนาจถ่อย ไม่ใช่ไปช่วยคนถ่อยหรืออาชญากรเขี่ยทรายกลบ เหมือนแมวซ่อนอึ

8.คลายปมกับเจาะข่าวร้อนฯ จะออกอากาศได้อีกไหม

ไม่ทราบครับ เราไม่ใช่ผู้มีอำนาจ เรามีแต่หน้าที่ คือ เป็นหมาเฝ้าบ้าน ตามชื่อ watch dog ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายการคลายปม ผมเองเป็นแค่คนที่เขาเชิญมาร่วมทำรายการด้วยปณิธานที่ตรงกัน คือทำความจริงให้กระจ่าง สร้างปัญญาให้สังคมเรามุ่งมั่นจะทำหน้าที่นั้น ผมเชื่อว่าผู้ผลิตรายการเจาะข่าวร้อนฯ ก็เหมือนกัน เขามุ่งมั่นติดตามตรวจสอบ "ขบวนการล้มเจ้า" อย่างเอาจริงเอาจังมาโดยตลอด เขาก็อยากให้คนไทยได้รู้และช่วยกันปกป้องสถาบันที่เราเคารพรักมากกว่าต้องเสียเวลาให้แก่ธิดาส้ม ธิดาหอย ธิดาปู ที่ไหนมั้งครับ

ผมคิดว่าถึงเวลาแล้ว ที่นายกรัฐมนตรีกับรัฐมนตรีสุรวิทย์ จะต้องพูดให้ชัด และรับประกันอย่าง "คนมีเกียรติ" ว่า สื่อในประเทศไทยจะไม่ถูกคุกคาม และต้องทำตามนั้นทั้งต่อหน้าและ ลับหลัง สว.และองค์กรตรวจสอบต้องตรวจจริงตรวจจัง และต้องคุ้มครองข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งผมยืนยันว่ามีข้าราชการ ที่ดีอยู่มาก อย่าให้เขาต้องเป็นหนังหน้าไฟ เป็นจำเลย สังคมแทน ฯพณฯ ทั้งหลายอีกต่อไป

ขณะนี้รายการ "คลายปม" กับ "เจาะข่าวร้อนฯ" ยังไม่ ถูกปิด เพียงแต่มีคลื่นแทรก

ถ้าหากสังคม ผู้ชม ปวงชนชาวไทย กล้าลุกฮือขึ้นมาตั้งคำถามและร่วมกันตรวจสอบกันอย่างแข็งขันต่อไป "ผู้มีอำนาจ" ที่หมายตาวิธีเลวๆ ในการจะปิดกั้นสองรายการนี้เอาไว้ เขาคง กลัวและอายบ้างล่ะน่ะ

หน้าคงไม่หนา จริยธรรมคงไม่บกพร่อง จนต้องบันทึกไว้ เป็นประวัติศาสตร์หรอกนะครับ


จิตกร บุษบา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น