วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554

จรัสพงษ์ สุรัสวดี ...บทสัมภาษณ์ซู่โม่ตู้ทอร์คโชว์..ซี้ด.ๆๆๆ

 เหตุผลของพี่ตู้ในการจัดทอล์คโชว์ครั้งนี้คืออย่างไรครับ ?
เพราะพี่อิจฉารากหญ้าครับ
การที่อนุญาตให้คนที่ไม่เรียนมีสิทธิเท่าเทียมคนที่เรียน เป็นกติกาสากลสำหรับ ประเทศที่ระดับการศึกษาเฉลี่ยสูงถึงขั้นปลอดภัยแล้ว การเลือกตั้งของเค้าจึงเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานได้ ซึ่งไม่ถูกต้องสำหรับประเทศที่การศึกษาเฉลี่ยต่ำครับ เพราะจริงๆแล้วสิทธิขั้นพื้นฐานเดิมนั้นกำหนดเฉพาะเรื่องพื้นฐาน เช่น การนับถือศาสนา การสาธารณะสุข การแสดงความคิด การสมรส สวัสดิภาพในการดำรงชีวิต ฯลฯ รวมไปถึง การศึกษา แต่ไม่รวมการเลือกตั้งเข้าไปในสิทธิขั้นพื้นฐานครับ อันตรายต่อความอยู่รอดของบางเผ่าพันธุ์ในทันที แต่เผ่าพันธุ์นั้นๆจะไม่ค่อยรู้ 
เพราะดันไปสงสารเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ที่ควรกำจัดเพราะเป็นภาระ 
เราไม่ได้เกรงใจภาระเพราะเราใจดีนะครับ เราเกรงใจภาระเพราะเราขี้ขลาด เราเกรงกลัวพวกภาระครับ ภาระจึงได้ใจ ครอบครองเมืองโดยไม่ยอมพัฒนาพวกตน พี่อิจฉามันครับ
เมื่อการศึกษาคือสิทธิขั้นพื้นฐาน
ใครไม่ยอมเรียนก็ต้องถือว่าผู้นั้นละเลยสิทธิขั้นพื้นฐาน ก็แปลว่าบกพร่องในหน้าที่ซึ่งโยงกับบางสิทธิ ผู้บกพร่องในหน้าที่ก็ควรถูกเพิกถอนบางสิทธิที่เกี่ยวข้อง เช่น สิทธิในการตัดสินใจเรื่องอนาคตของประเทศชาติ เพราะเราจำเป็นต้องกำหนดที่การศึกษาครับ ไม่ใช่กำหนดที่อายุเหมือนประเทศพัฒนา ตายซิ่ ระดับการศึกษาเฉลี่ยของเราต่ำกว่ามาตรฐานประเทศประชาธิปไตยในโลกครับ ไม่ต้องอาย ต่ำกว่ามากเลยจริงๆ ต้องยอมรับ ต้องแก้กติกาครับ ไม่งั้นตาย หลายศพแล้วด้วย และจะมีอีกครับถ้าไม่รีบแก้กติกา อย่าอาย เพื่อนร่วมชาติเราโง่ครับ ยอมรับซะจะได้แก้กติกากัน
ทำไมเราจึงไม่ให้ลิงบาบูนอายุ 18 ขวบมีสิทธิ์เลือกตั้งล่ะครับ 
เพราะบาบูนไม่เรียนหนังสือ ไม่ใช่เพราะบาบูนไม่ใช่คนนะครับ บาบูนเหนือกว่าบางคนด้วยซ้ำ บาบูนหากินเองได้ ไม่ต้องรอเอื้ออาทร ไม่ต้องรอผ้าห่มทุกปี ก็ถ้าบาบูนเรียนหนังสือสอบผ่าน ม.6 ก็แปลว่าพูดกับคนรู้เรื่อง เราก็ควรให้สิทธิ์เลือกตั้งกับบาบูนครับ แต่นี่มีโง่กว่าบาบูนอีกนะ พูดก็ไม่รู้เรื่อง สะกดประชาธิปไตยก็ไม่ถูก ทำมาหากินก็ไม่ได้ ผ้าห่มก็หาเองไม่ได้ต้องแจกทุกปี แต่ดันมีสิทธิ์เลือกตั้ง อย่างงี้บาบูนค้อนครับ
ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไมไม่ทราบครับ 
ประชาธิปไตยมันว่าด้วยเรื่องเสียงข้างมาก ฉะนั้น ประเทศไหนที่เสียงข้างมากไม่มีการศึกษา ประเทศก็ล่ม เพราะกุ๊ยซื้อกุ๊ยและกุ๊ยเลือกกุ๊ยแน่นอนครับ พวกคอมมิวนิสนิยมก็สัพหยอกว่าพี่ตู้เป็น อำมาตยาธิปไตย?? แต่พี่เต็มใจเป็น อำมาตยาธิปไตย มากกว่า กุ๊ยยาธิปไตย นะจะบอกให้ แต่เดี๋ยวนะครับ อำมาตยาธิปไตยมันไม่ดีตรงไหนหรือครับ เทียบกับรัฐบาลรากหญ้าธิปไตยทุกวันนี้
มีคนเข้าใจสิ่งที่เข้าใจยากแบบนี้อยู่หยิบมือนึงบนแผ่นดินนี้
พี่ต้องทอล์คโชว์เพราะพี่ต้องการพูดคุยกับท่านเหล่านี้บ่อยๆครับ อาจไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงวันนี้ แต่พรุ่งนี้จะไม่มืดมน เพราะคนเหล่านี้จะเห็นทางออกไงครับ ถ้าไม่อวดเก่งกันนะ พรุ่งนี้หมายถึงวันรุ่งขึ้น ไม่ใช่ปีรุ่งขึ้นนะ เพราะทันทีที่รู้ทางออกก็บอกต่อกันแบบแอมเวย์
แป๊บเดียวก็เข้าใจกันหมดแล้ว ซัก 2 วันมั้ง เพราะคนที่ฟังรู้เรื่องมีไม่ถึง 1 % ของประเทศ ที่เหลือไม่ใช่โง่ แต่ไม่ฟังครับ ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าอวดดี เพียงแต่โง่
การเปลี่ยนแปลงแผ่นดินต้องทำให้เด็ดขาดครับ
ไม่ใช่ไล่ไปแล้วเลือกตั้งใหม่เพื่อให้พวกมันกลับมายิ่งใหญ่อีก มันตลกและดูไม่เด็ดขาดไม่จริงใจนะครับ ซึ่งพี่ก็สรรเสริญ
ทุกการต่อสู้ของพันธมิตร เพราะชอบพอกันเป็นการส่วนตัวมาก 
แต่พี่ไม่ไปวิ่งชนกระสุนเพื่อให้รากหญ้าเลือกพวกมันกลับมาอีก คุณพ่อพี่สอนว่า อย่าให้คนไม่ดีมีโอกาสปกครองบ้านเมือง เพราะฉะนั้น การขับไล่ ต้องตามด้วย การกำจัด ซึ่งในอารยะประเทศเค้าใช้วิธีฆ่าทิ้งแบบเนียนๆ
แล้วแจงว่า ตายด้วยฝีมือคนวิกลจริต ซึ่งเรื่องก็เงียบ แต่ในอนารยะประเทศซึ่งขี้ขลาด ก็ใช้วิธีนุ่มนวล ซึ่งก็ตกเป็นเบี้ยล่างและสูญเสียเปล่า เพราะกลับมาเหมือนเดิมทุกอย่างหลังทุกการต่อสู้ พี่หงุดหงิดทุกครั้งเพราะวีรบุรุษของพี่เหนื่อยเปล่าทุกครั้ง เพราะไม่แก้ที่ระบอบไงครับ
การเป็นวีรชนด้วยอารมณ์มักไม่แก้ปัญหาครับ ต้องแก้ปัญหาด้วยเหตุผล
ซึ่งต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ การโกงกิน การแตกแยก และ สิทธิที่ไม่ควรเป็นขั้นพื้นฐาน ซึ่งพี่จะได้กล่าวรวมไว้ในช่วงท้าย ขยักเอาไว้ก่อนให้หงุดหงิดเล่นซะงั้น เป็นการคัดคนอ่านไงครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น