วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คำขอถึงนายกฯหญิง



คำขอถึงนายกฯหญิง
ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยสอนหนังสืออยู่ในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ดิฉันอดดีใจไม่ได้ที่บ้านเมืองเราจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิง และในฐานะประชาชนคนหนึ่งซึ่งมีสิทธิที่จะคาดหวังว่าจะได้เห็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ตามทำหน้าที่บริหารประเทศชาติอย่างมีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล และก็มีสิทธิที่จะขอให้ผู้นำการเมืองทำในสิ่งที่มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดิฉันจะขอในเบื้องต้นเพียงแค่ 3 เรื่องเท่านั้นคือ

1. ขอให้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างจริงใจ ขอให้ระลึกตลอดเวลาว่าบ้านเมืองไทยและคนไทยทุกคนร่มเย็นเป็นสุขด้วยพระบารมี และพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ และฝากข้อคิดไปถึงคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตรว่าอย่าลืมเหตุการณ์เรื่องหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งมี(ปก)พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ ซึ่งตกอยู่บนเครื่องบินของการบินไทย ซึ่งวันนั้นคุณยิ่งลักษณ์อยู่ในเหตุการณ์ด้วย (ใครคนหนึ่งใช้เป็นที่รองเท้า?จนมีเรื่องกับผู้โดยสารที่นั่งอยู่ใกล้ๆ)

2. ขอให้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกช่วยเร่งรัดให้นำตัวบรรดาผู้จ้วงจาบและกระทำการ อันหยาบช้าต่อพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี ไปลงโทษให้สาสม โดยเฉพาะคนที่บังอาจตีตนเทียบเท่าโดยการล่วงล้ำเข้าไปใช้พระอุโบสถวัดพระศรี รัตนศาสดารามกระทำพิธีการทางศาสนา รวมถึงบรรดาพวกที่เอ่ยวาจาสามหาวจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ อีกทั้งผู้จงใจทำร้ายประเทศชาติด้วยการยุยงให้เกิดการเผาทำลายสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ยุยงให้ "พี่น้องชาวไทยเผา....เผาเข้าไปเลย ผมรับผิดชอบเอง" หรือผู้ปลุกระดม "ให้เอาขวดเปล่ามาคนละขวด มาเติมนำมันในกรุงเทพฯ ขวดละหนึ่งลิตร มาหนึ่งล้านคนก็จะได้หนึ่งล้านลิตร กรุงเทพฯ จะกลายเป็นทะเลเพลิงในพริบตา" ดิฉันเชื่อเหลือเกินว่าคุณยิ่งลักษณ์รับรู้และรับทราบเรื่องราวเหล่านี้เป็น อย่างดี เพราะฉะนั้นก็คงจะไม่ปฏิเสธการนำคนสามานย์ไปลงโทษตามกฎบ้านกบิลเมือง

3. ขอให้นายกรัฐมนตรีหญิงช่วยกราบขอประทานอภัยจากสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายกแทนผู้ที่ทำการอันหยาบช้าต่อพระองค์ท่าน ซึ่งทำให้พระองค์ท่านต้องถูกนำพระองค์อพยพหนีวินาศภัยและวินาศกรรมออกจากโรง พยาบาลจุฬาลงกรณ์เมื่อปี 2553 หลังจากมีผู้บุกรุกเข้าไปในเขตโรงพยาบาลจุฬาฯ ด้วยเจตนาไม่สุจริต

ดิฉันขอเพียง 3 ข้อเท่านั้น เพราะมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีหญิงรับรู้เรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือนายกรัฐมนตรีหญิงคงจะระลึกได้เป็นอย่างดีว่า ตนเองเคยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันหรือเกี่ยวข้องกับคนกลุ่มเสื้อแดงแบบต่างกรรม ต่างวาระด้วย ดังนั้นจึงอยากให้นายกฯหญิงสร้างความกระจ่างเรื่องนี้ให้บังเกิดกับสังคม เพื่อชื่อเสียงและเกียรติยศของท่านนายกฯหญิง

ดิฉันขอเพียงแค่นี้จริง ๆ และเชื่อว่าเรื่องที่ขอคงไม่เกินกำลังของผู้ที่กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นนายกฯ หญิงของประเทศไทย และขอเตือนด้วยความหวังดีว่า ในอนาคตนั้น นายกฯหญิงจะต้องเผชิญกับการทวงสัญญาจากผู้คนกลุ่มต่าง ๆ อีกมากมาย แล้ววันนั้นนายกฯหญิงอาจจะเข้าใจด้วยตนเองว่า "เออหนอ การเป็นนายกฯ มันคือการตกนรกชัด ๆ นี่เอง"

อย่าง ไรก็ตาม ขออำนวยพรให้นายกฯหญิงไม่ต้องตกนรก หากประพฤติตนดีและทำประโยชน์ให้ชาติบ้านเมืองโดยสุจริตใจ และหวังว่านายกฯหญิงจะไม่เดินไปบนหนทางแห่งความเสื่อมเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง ที่เคยทำมาก่อน"

ด้วยความปรารถนาดี
หม่อมราชวงศ์ยงยุพลักษณ์ เกษมสันต์

ที่มา พระจันทร์ดอทคอม

-------------------

แม้ว่าบทความนี้จะมีขึ้นมาหลายวันแล้ว แต่เห็นว่าทั้ง 3 ข้อ เป็นคำขอที่รัฐบาลนี้รับฟังแล้ว คงกระอักกระอ่วนใจน่าดู เหมือนไปกระแทกซ้ำๆ ตอกหัวตะปูย้ำๆ ซึ่งเชื่อว่าท่านหญิงคงไม่ได้ดั่งที่ขอ

นายกหญิงคนนี้ เธอเป็นแค่ตุ๊กตาไขลานของพี่ชายผู้หนีคดี ร่อนเร่เช่นสัมภเวสีอยู่ในขณะนี้ ภายใน 1 วันของเธอ ช่างแสนยาวนานนัก เธอคงอยากจะให้ถึงตอนค่ำเร็วๆ เพื่อให้หน้าที่นายกจบไำปภายใน 1 วัน ในแต่ละวัน ที่เธอยังคงดำรงตำแหน่งนายกหญิงของประเทศอยู่

ตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ คือ ตอนนี้เธอคงอยากกลับไปทำกับข้าว มากกว่าคอยตอบคำถามผู้สื่อข่าวคอยถามจี้ใจดำ ย้ำความรู้สึก แบบว่าเธออาจจะเผยพิรุจมาได้ในคำตอบ

กับ 3 ข้อ ในแต่ละเรื่องที่ขอนั้น ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ และเป็นสิ่งที่คนไทยมีข้อสงสัยต่อรัฐบาลชุดนี้ ว่ามีหรือไม่ จริงใจหรือเปล่า และคงอยากให้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ แต่นายกหญิงคนนี้คงทำไม่ได้แน่นอน

คงไม่ใช่การสบประมาท เพราะแน่ใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือว่าจะวาดหวังรอให้เธอพัฒนารอยหยักขึ้นมาเสียก่อน แต่ว่าเป็นการหวังมากเกินไปหรือเปล่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น